ตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจออร์แกนิคในประเทศไทย ได้อภิปรายในที่ประชุมสัมมนาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า อยากเห็นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาตลาดออร์แกนิคในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น รวมทั้งตลาดใหม่ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ และตลาดในเอเชีย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน
การสัมมนานี้จัดโดยกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงาน Organic and Natural Expo 2013 ที่ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 โดยงานในปี 2556 นี้ ทางกระทรวงฯ ได้จัดงานร่วมกันกับงาน "Green Fair" ที่จัดโดยบริษัทสวนเงินมีมาจำกัด ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ ในช่วงระหว่างวันที่ 9 - 12 พฤษภาคม 2556 ซึ่งนอกจากกิจกรรมสัมมนาแล้ว ยังมีการจัดงานแสดงสินค้าออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์จากชุมชน และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นาย Andre Leu ประธานสมาพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (IFOAM) ได้กล่าวปถกฐาเปิดงาน แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวของการผลิตและตลาดออร์แกนิคทั่วโลก รวมทั้งการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์เพื่อเป็นมาตรการในการสร้างความมั่นคงด้านอาหารและการลดก๊าซเรือนกระจก (ที่เป็นสาเหตุโลกร้อน)
คุณสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ และผู้อำนวยการข้อมูลตลาดเกษตรอินทรีย์ได้เน้นการให้ความสำคัญกับการพัฒนาฐานข้อมูลการผลิตและการตลาดของสินค้าออร์แกนิคไทย เพื่อใช้ในการวางแผนที่ดีมากขึ้น ในขณะที่ คุณปริญญา พรศิริชัยวัฒนา จากรังสิตฟาร์มได้กล่าวถึงประโยชน์ของเกษตรอินทรีย์ต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพผู้บริโภค และเสนอให้หน่วยงานต่างๆ หันมาให้การสนับสนุนการพัฒนาตลาดอาหารออร์แกนิคในประเทศให้ขยายเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคในประเทศ ส่วนคุณสุวรรณา หลั่งนาสังข์ จากเลม่อนฟาร์มได้กล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างกระแสความตื่อนตัวเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคไทยและการปรับเปลี่ยนการบริโภคมาเป็นอาหารออร์แกนิคสามารถมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพได้อย่างไรบ้าง รวมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานต่างๆ หันมาสนับสนุนตลาดออร์แกนิคในประเทศไทยเพิ่มขึ้น และคุณสนธิ์ ชมดี จากบริษัทเขาค้อทะเลภู ได้บรรยายถึงความสนใจของลูกค้าในต่างประเทศที่มีต่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผลิตจากสมุนไพรไทย และโอกาสทางการตลาดในเรื่องดังกล่าวทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ส่วนนายวิฑูรย์ ปัญญากุล นายกสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทย ได้แสดงความเห็นสนับสนุนการพัฒนาตลาดออร์แกนิคทั้งในประเทศและต่างประเทศไปควบคู่กัน เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ไทย โดยตลาดในต่างประเทศนั้น ควรหันมาให้ความสนใจกับตลาดในเอเชีย เช่น จีน อาเซียน เพื่อทำให้เกิดความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกาด้วย นอกจากนี้ นายวิฑูรย์ยังเรียกร้องให้หน่วยราชการสนับสนุนการลงทุนเรื่องการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดออร์แกนิคและพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน เพื่อทุกฝ่ายจะได้สามารถวางแผนการทำงานได้ดีขึ้น
ในช่วงบ่าย ทางสมาคมการค้าเกษตรอินทรีย์ไทยได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการให้กับผู้ประกอบการที่สนใจ โดยในช่วงแรกเป็นการแนะนำแนวทางในการวางแผนการจัดทำธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ตั้งแต่การส่งเสริมการผลิตกับเกษตรกร การแปรรูปและจัดการสินค้าออร์แกนิค การตรวจสอบรับรองมาตรฐาน ไปจนถึงการทำการตลาด โดยมีผู้บรรยาย 3 ท่านคือ นายพีรโชติ จรัญวงศ์ อุปนายกสมาคมฯ นายวัลลพ พิชญ์พงศา เลขาธิการ และนายวิฑูรย์ นายกสมาคมฯ และในช่วงที่ 2 เป็นการสัมมนาเกี่ยวกับกลไกสนับสนุนการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทย โดยมีอาจารย์อัญชลี สงวนพงษ์ ประธานกรรมการบริหารเครือข่ายนวัตกรรมเกษตรอินทรีย์ ที่ได้มาเล่าให้ฟังถึงการสนับสนุนโครงการนวัตกรรมด้านเกษตรอินทรีย์ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และคุณวราทิพย์ วีรกิจ มูลนิธิสายใยแผ่นดิน ได้เล่าถึงบริการและกระบวนการสนับสนุนและให้คำปรึกษากับผู้ผลิตและผู้ประกอบการเกษตรอินทรีย์ที่มูลนิธิฯ สามารถให้บริการสนับสนุนได้ ส่วนคุณวิบูลย์วลย์ วรรณโมลี สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้กล่าวถึงกลไกการตรวจสอบรับรองมาตรฐานของภาครัฐ และคุณบุญธิชา ชมชื่น จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกร ได้เล่าถึงการทำงานของ สปก. ในการสนับสนุนให้กลุ่มเกษตรกรรายย่อยหันมาทำเกษตรอินทรีย์
