Brand Inside เผย 3 เทรนด์ไลฟ์สไตล์คนไทยที่ยังคงมาแรงในตอนนี้ไปจนถึงอนาคต เรื่องสุขภาพยังคงมาแรงที่สุด ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี
มองหาอาหารออแกนิก พร้อมความพิเศษเฉพาะบุคคล และการใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลเทรนด์สุขภาพยังมาแรง 79% ต้องการมีโภชนาการที่ดีขึ้น
มินเทล บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิจัยตลาดได้เปิดเผยเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคคนไทย จากกลุ่มตัวอย่าง 1,500 คน อายุ 16 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในเมือง พบว่าส่วนใหญ่มีเป้าหมายเรื่องสุขภาพ ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ 79% มีความต้องการมีโภชนาการที่ดีขึ้นในปี 2018 ในขณะที่ 76% บอกว่าอยากมีชีวิตสมดุล และ 73% จะหันมาออกกำลังกายให้มากขึ้น
ที่น่าสนใจคือผลสำรวจพบว่าคนไทย 48% กำลังจะเริ่มปฏิวัติวิถีการกิน การใช้ชีวิตในอีก 12 เดือนข้างหน้าเพื่อสุขภาวะที่ดี และในกลุ่มผู้บริโภคเหล่านี้ 90% บอกว่าจะรับประทานผลไม้รวมถึงผักต่างๆ ให้มากขึ้น ในขณะที่อีก 53% วางแผนที่จะลดการบริโภคเนื้อสัตว์ และ 45% จะทานมังสวิรัติ
เดลอน หวัง Trends Manager มินเทล เอเชียแปซิฟิก พูดถึงพฤติกรรมเหล่านี้ว่า
“จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และการขยายตัวของเมือง ทำให้ผู้บริโภคในประเทศไทยเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น ทำให้กระแสการเป็นตัวเองที่ดีกว่ากำลังมาแรง ทั้งในเชิงสุขภาวะร่างกาย อารมณ์และสุขภาพจิตใจ เริ่มหันมาใส่ใจในเรื่องของการบริโภคหนักขึ้น”
ต้องการความพิเศษเฉพาะบุคคล
ผลสำรวจบอกว่า 41% ของผู้บริโภคในเมืองใหญ่มองว่า แบรนด์ใดที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าสินค้า หรือบริการเหมาะกับเขา หรือทำมาเพื่อเขาจริงๆ จะเป็นแบรนด์ที่ควรค่าแก่การซื้อ โดยจะมองว่าสินค้าเหล่านี้ตอบโจทย์ และคุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าประเภทอาหาร คิดเป็น 67% และสินค้าสุขภาพ หรือฟิตเนส 63%
เมื่อกล่าวถึงเรื่องความสวยความงาม 51% ชอบให้สินค้า และบริการออกแบบเฉพาะเจาะจงกลุ่มผู้บริโภคที่หลากหลาย เช่นเดียวกันกับสินค้ากลุ่ม Pแต่ถ้าถามถึงปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้าที่ซื้อใช้ทุกวัน 63% เลือกซื้อสินค้าที่คุณภาพ รองลงมาคือ 48% ความสะดวก 38% เลือกซื้อที่ราคา อีก 37% ซื้อที่ความทนทาน และสุดท้าย 29% เลือกซื้อสินค้าที่ถูกออกแบบมาเฉพาะกลุ่มบุคคล
ดิจิทัลมีอิทธิพลต่อการบริโภค
งานวิจัยระบุว่า 63% ของผู้บริโภคชาวไทยเลือกซื้อสินค้า และบริการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพจากข้อมูลออนไลน์เป็นหลัก ในขณะที่ 54% เลือกซื้อตามอิทธิพลของสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดีย หรือตามบล็อกเกอร์ อีก 59% บอกว่าสินค้าประเภทความสวยความงามได้รับอิทธิพลมาจากสังคมออนไลน์ และ 56% บอกว่าพวกเขาค้นหาข้อมูลผ่านออนไลน์ และ Search Engine Personal care ด้วยมีการประเมินว่าสินค้าพวก Wearable จะเป็นผู้เล่นสำคัญในอนาคต เพราะจะเป็นตัวช่วยในเรื่องการออกแบบสินค้าที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น คาดว่าอีกไม่นานระบบข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะเชื่อมโยงถึงกัน และไม่เพียงแต่จะช่วยนักการตลาดเท่านั้น แต่ผู้บริโภคเองก็เก็บข้อมูลของตัวเองได้ด้วย ทำให้ผู้บริโภคเองก็จะรู้ว่าเป้าหมายในชีวิตด้านต่างๆ ที่ได้มาจากอุปกรณ์ไฮเทคที่พกติดตัว ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลจากการเคลื่อนไหว และพฤติกรรม จนเกิดการเรียนรู้เพื่อวางแผนมในอนาคตได้ ข้อมูลพบว่า 39% ของกลุ่มผู้บริโภคคนไทยมีการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ และมีแนวโน้มใช้มากขึ้นด้วย
เป้าหมายคือรักษาสมดุลธรรมชาติ
ปัจจุบันผู้บริโภคชาวไทยต้องการมีคุณภาพชีวิต และมีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่นิยามของการมีสุขภาพดีในวันนี้ 67% บอกว่าคืออาหารที่ดี ประกอบด้วยวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติ ในขณะที่ 61% บอกว่าต้องมีไขมันต่ำ และ 56% มองว่าต้องเป็นสินค้าออแกนิก
ส่วนผู้บริโภคอีก 55% ระบุว่าต้องมีแคลอรีต่ำ และ 54% ระบุว่าต้องมีปริมาณน้ำตาลน้อย นอกจากนั้น 53% พยายามหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว และ 43% ไม่บริโภคน้ำตาลขัดสี และอีก 33% ระวังการบริโภคเหลือ และเนื้อแดงที่อาจมีสารเคมีปนเปื้อน เป็นต้น
มีรายงานว่า บริษัทผู้ผลิตสินค้าประเภท อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล และความงาม ต่างเริ่มตระหนักดีถึงความต้องการของผู้บริโภคในการเลือกใช้สินค้าที่มีความเป็นธรรมชาติ โดยจากข้อมูลของ Mintel Global New Products Database (GNPD) พบว่า 41% ของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างต้นที่เปิดตัวในตลาดประเทศไทยเมื่อปีที่ผ่านมานั้นมีส่วนผสมของธรรมชาติ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่าปี 2010 อยู่ถึง 34%
ท้ายที่สุดผู้บริโภคชาวไทยค่อยๆ ปรับความชอบของตัวเองไปในทางการบริโภคพืชผักมากขึ้น และลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง 76% ระบุว่าพวกเขาเลือกรับประทานโปรตีนจากพืช อย่างเช่น ผักใบเขียว และถั่ว มากกว่าการบริโภคโปรตีนจากสัตว์ที่มาจากเนื้อสัตว์ หรือไข่ ในขณะที่มากกว่า 55% เห็นด้วยว่า โปรตีนจากพืชนั้นดีกว่าโปรตีนจากสัตว์
สรุป
เรื่องการดูแลสุขภาพคงไม่ใช่เทรนด์อีกต่อไปแล้ว แต่เป็นเรื่องไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ดูแลตัวเองมากขึ้น นักการตลาดต้องลองดูว่าแบรนด์จะสามารถสื่อสาร หรือพูดคุยกับผู้บริโภคอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้แบรนด์มีบทบาทในชีวิตเขา เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน มีแต่คนต้องการสุขภาพดีกันทั้งสิ้น