ECO News : ครม.เคาะโรดแมพ เลิกใช้ กล่องโฟม – ถุง/หลอดพลาสติกปี 65

  • warning: Creating default object from empty value in /home/thaiorga/domains/thaiorganictrade.com/public_html/sites/all/modules/openwebmini/openoai/ioai/ioai.module on line 591.
  • strict warning: Non-static method flag_flag::factory_by_row() should not be called statically in /home/thaiorga/domains/thaiorganictrade.com/public_html/sites/all/modules/contrib/flag/flag.module on line 1424.
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ ร่างโรดแมพการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.)เสนอ และให้กรมควบคุมมลพิษปรับปรุงร่างแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกพ.ศ. 2561 – 2573 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 สาระสำคัญของเรื่อง กระทรวงทรัพยากรฯ รายงานว่า เรื่องนี้เดิมนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 ว่า ให้กระทรวงทรัพยากรฯ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันรณรงค์ ประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการลดการใช้วัสดุที่ผลิตขึ้นจากพลาสติก รวมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการจูงใจสำหรับบริษัท ห้างร้าน และสถานประกอบการต่าง ๆ เพื่อลดปริมาณการใช้วัสดุที่ผลิตจากพลาสติกอีกทางหนึ่งด้วย กระทรวงทรัพยากรฯจึงได้จัดทำร่างโรดแมพการจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 – 2573 ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายการบริหารจัดการขยะพลาสติกในภาพรวมของประเทศ และเป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติการ ด้านการจัดการขยะพลาสติกแบบบูรณาการของหน่วยงาน โดยร่างโรดแมพได้ตั้งเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติก บางประเภทภายในปี พ.ศ. 2562 เช่น พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม ด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเลิกใช้พลาสติกประเภทถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติก (แบบบางใช้ครั้งเดียว) และหลอดพลาสติกภายในปี พ.ศ. 2565 รวมทั้งมีการกำหนดหน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินงานตามร่างโรดแมพในทุกภาคส่วน ตลอดจนมีการกำหนดกลไกต่าง ๆ ในการขับเคลื่อน เช่น สร้างความรู้ ความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือการดำเนินงานรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ฯ >>ที่มา...www.thansettakij.com/content/399463