ชาสมุนไพรไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มสำหรับผู้สูงอายุ อีกต่อไป และจะกลายเป็นเครื่องดื่มประจำวัน ที่ไม่จำเป็นต้องบริโภคเฉพาะเวลาต้องการรักษา อาการเป็นหวัดหรืออาหารไม่ย่อยอีกต่อไป >>> ตลาดชาสมุนไพรเป็นตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปมาก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นาง Sandra Joly ผู้บริหาร ฝ่ายผู้บริโภคจากสำนักงาน Lonsdale ซึ่งเชี่ยวชาญ ด้านการออกแบบและการสร้างแบรนด์ กล่าวว่า ตลาดชาสมุนไพรเป็นหนึ่งในตลาดที่ผู้ผลิตมีความสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก และขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยอาศัยกระแสการบริโภคเพื่อสุขภาพและการบริโภคสินค้าธรรมชาติไร้สารเติมแต่ง โดยผู้บริโภคหันมาดื่มชาสมุนไพรแทนน้ำ ผลไม้ที่เริ่มถูกมองว่ามีน้ำตาลมากเกินไป ด้วยกระแสดังกล่าว จึงเริ่มมีสินค้ายี่ห้อใหม่ ๆ เข้ามาในตลาด เช่น - ชาสมุนไพรยี่ห้อ Chic des Plantes ! ที่เริ่มจำหน่ายในปี 2558 โดยนำเสนอชาสมุนไพรออร์แกนิคไร้สารเติมแต่ง ผลิตในฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันจำหน่ายอยู่ในร้านออร์แกนิค สปา ร้านอาหาร และโรงแรม นอกจากนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่จะมาถึงนี้แบรนด์จะเปิดร้าน pop-up ในห้างสรรพสินค้า Bon Marché และ La Grande Epicerie เพื่อทำการตลาด พร้อมเปิดบาร์ชาสมุนไพร นาง Corinne Lacoste หนึ่งในหุ้นส่วนกล่าวว่า กลุ่มลูกค้าหลักที่แบรนด์เน้นทำการตลาด ในปัจจุบันคือคนวัยทำงาน ซึ่งสามารถดื่มชาสมุนไพรทดแทนการดื่มกาแฟยามบ่าย - ชาสมุนไพรยี่ห้อ Happy Plantes ที่เริ่มวางจำหน่ายในปี 2559 โดยนำเสนอชาสมุนไพรแยกส่วนผสม ที่ผู้บริโภคสามารถ ผสมชาสมุนไพรในสูตรของตนได้เอง ซึ่งจำหน่ายในกล่องไม้พร้อมกับหนังสือการผสมชาสมุนไพรที่เขียนโดยผู้ก่อตั้ง นาง Amaya - ชาสมุนไพรยี่ห้อ Les deux Marmottes ที่ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท FrenchFood Capital เแบรนด์ Les deux Marmottes เดิมทีเป็นบริษัท SME ตั้งอยู่ในแคว้น Haute-Savoie ทางตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งนำเสนอชาสมุนไพร ไร้สารเติมแต่งสูตรต่าง ๆ ที่มีชื่อเป็นเอกลักษณ์ ทั้งนี้เพื่อปัดฝุ่นให้ชาสมุนไพรดูทันสมัยและน่าบริโภค โดยผู้ก่อตั้งแบรนด์ กล่าวว่าชาสมุนไพรในปัจจุบันสามารถดื่มได้แม้กระทั่งเวลาอาหารเช้า หรือเวลาของว่างทดแทนกาแฟ - ชาสมุนไพรยี่ห้อ Pagès ที่แต่เดิมรับผลิตชาให้ผู้กระจายสินค้าต่าง ๆ ก็ได้พัฒนาแบรนด์ของตนเอง ซึ่งนำเสนอเฉพาะ ชาสมุนไพรออร์แกนิค และวางจำหน่ายในห้างร้านทุกรูปแบบ ตลอดจนร้านขายยา ชาสมุนไพรยี่ห้อใหม่ต่าง ๆ เหล่านี้เริ่มเข้ามามีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอย่างมาก และดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่อายุน้อยลง กว่าเดิม ทั้งนี้ตลาดชาสมุนไพรเองยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังเติบโตได้อีก โดยมีแนวโน้มว่าจากนี้ไปคนที่ไม่เคยดื่มชา สมุนไพร จะเริ่มหันมาซื้อชาสมุนไพรดื่มประมาณ 1 กล่องต่อสัปดาห์ สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ นไพรในฝรั่งเศสกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งภายใต้กระแสการบริโภคเพื่อสุขภาพ โดย มีผู้ผลิตสินค้ารายใหม่เข้ามา ในตลาดอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผู้ผลิตรายเก่าเองก็พยายามนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ เช่นกัน สำหรับชาสมุนไพรยี่ห้อเก่าอื่น ๆ เองก็พยายามปรับตัวเช่นกัน โดยเริ่มนำเสนอสินค้าออร์แกนิค มุ่งจำหน่ายให้กับลูกค้า อายุ 20-30 ปี และใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีลักษณะเรียบง่าย แบรนด์ชาสมุนไพรเก่าแก่อย่าง เช่น Elephant เองก็ปรับตัวด้วยการ จ้างสำนักงาน Lonsdale เข้าออกแบบแนวสินค้าและแนวทางการตลาดใหม่ ยอดการค้าชาสมุนไพรในปี 2561 ในฝรั่งเศสเติบโตถึงร้อยละ 4.5 สำหรับสินค้าแบบดั้งเดิม และยังมีการเปิดตลาดใหม่ ในกลุ่มชาสมุนไพรสำหรับเด็ก หรือสำหรับแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร อย่างไรก็ตามสินค้าในกลุ่มชาสมุนไพรสำหรับร้านอาหารน ยังคงมียอดการค้าน้อยเมื่อเทียบกับชาสมุนไพรแบบดื่มที่บ้าน ที่มาของข่าว ข่าวออนไลน์จากเว็บ Les Echos https://www.lesechos.fr/industrie-services/conso-distribution/0600605721...
วันที่: 11/03/2019